วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

ขับขี่ปลอดภัย

การขับรถอย่างถูกวิธี : การอนุรักษ์พลังงาน


การขับรถอย่างถูกวิธี การขับรถอย่างถูกวิธีจะมีส่วนช่วยให้เรา สามารถช่วยอนุรักษ์พลังงาน ลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง หากเราปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้


1. ไม่ควรเร่งเครื่องก่อนออกรถ การเร่งเครื่องให้มีความเร็วรอบสูง จะทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้น โดยไม่จำเป็น เพราะเมื่อเครื่องยนต์มีความเร็วรอบสูง อัตราความต้องการน้ำมัน เชื้อเพลิงจะสูงตามด้วย เมื่อออกรถเราไม่จำเป็นต้องเร่งเครื่องยนต์ โดยทั่วไปความเร้วรอบที่เหมาะสม สำหรับการออกรถประมาณ 1100-1250 รอบต่อนาที

2. ไม่ควรติดเครื่องขณะจอดรถคอย กรณีที่จอดรถคอยเป็นเวลานาน ควรดับเครื่องยนต์เพราะจะทำให้ สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเปล่าประโยชน์ การติดเครื่องจอดอยู่เฉยๆ เป็นเวลา 5 นาที จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันไปโดยเปล่าประโยชน์ 0.3 ลิตร

3. ขับรถที่ความเร็วเหมาะสม การขับรถด้วยความเร็วสูง จะต้องใช้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงตาม ดังนั้นเราควรควบคุม ความเร็วในอัตราที่เหมาะสม คือ ประมาณ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากขับที่ความเร็ว 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะใช้น้ำมันมากขึ้น ประมาณร้อยละ 17

4. การใช้เกียร์ให้สัมพันธ์กับความเร็วรอบ ไม่ควรใช้เกียร์ต่ำ(เกียร์ 1,2) ที่ความเร็วรอบสูง หรือ ใช้เกียร์สูง (เกียร์ 3,4,5) ที่ความเร็วรอบต่ำ จะมีผลทำให้กำลังเครื่องตก และจะสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติ

5. การเปิดเครื่องปรับอากาศ ในการเปิดเครื่องปรับอากาศ จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ประมาณร้อยละ 25 ดังนั้นถ้าหากเราใช้เครื่องปรับอากาศตามความจำเป็น และไม่ปรับให้เย็นมากเกินไป จะสามารถลดการสิ้นเปลือง น้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างมาก

6. ไม่ควรบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป กรณีที่เราบรรทุกน้ำหนักเกินเพียง 50 กิโลกรัม จะมีผลทำให้ระยะทางที่วิ่งได้ต่อน้ำมัน 1 ลิตร สั้นลง 1 กิโลเมตร ดังนั้นจึงควรสำรวจในรถหากมีสิ่งของที่ไม่จำเป็นควรนำออก

7. เติมลมยางให้เหมาะสม ตรวจเช็คและเติมลมยาง ให้เหมาะสมกับขนาดของรถยนต์ หากลมยางแข้งเกินไป จะทำให้ยางแตก และขับขี่ไม่นุ่มนวล ในขณะเดียวกันถ้าลมยางอ่อนเกินไป จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง มากยิ่งขึ้น ดังนั้นควรเติมลมยางตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด จากผู้ผลิต หากความดันลมยางต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดทุกๆ 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะทำให้สิ้นเปลือง น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นร้อยละ 2

8. ตรวจเช็ครถยนต์ตามระยะเวลาที่กำหนด การตรวจเช็ครถยนต์ตามเวลาที่กำหนด เป็นการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ของรถยนต์ไม่ให้สึกหรอ และสามารถใช้งานต่อได้อย่างปลอดภัย และไม่เปลืองน้ำมัน

9. การตกแต่งรถ การตกแต่งรถบางอย่าง เช่น การขยายหน้ายางล้อ ให้ใหญ่กว่ามาตรฐานเดิม จะเป็นการเพิ่มพื้นที่การรับน้ำหนักของรถ เมื่อต้องเพิ่มอัตราเร่ง จะทำให้เครื่องยนต์ ใช้ความเร็วรอบสูงกว่าปกติ เป็นเหตุให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย



10.เปิดไฟหน้าทิ้งไว้จะมีผลอย่างไร และมีผลต่อเครื่องยนต์หรือไม่ ในกรณีที่ท่านจอดรถและลืมปิดไฟหน้า จะไม่มีผลเสียต่อระบบการทำงานของเครื่องยนต์ แต่จะทำให้กระแสไฟใน แบตเตอรี่ถูกจ่ายไฟตลอดเวลา ดังนั้นหากไฟหน้าถูกเปิดทิ้งไว้นานอาจจะมีผลทำให้กระแสไฟในแบตเตอรี่ไม่เพียงพอใน การสตาร์ทเครื่องยนต์
11. การตรวจเช็ครถก่อนเดินทางไกล การตรวจเช็คที่ไม่เสียเวลามากนักก่อนเดินทาง จะช่วยให้มั่นใจในการขับขี่
ตรวจรถภายนอก
ยาง ตรวจความดันลมยาง ดอกยาง และรอยฉีกขาด ตรวจดูว่าขันแน่นดี แต่ก็ไม่แน่นจนเกินไปจนคลายออก ไม่ได่ด้วยตัวเอง รอยรั่วซึม ตรวจดูว่ามีร่องรอยน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค หรือ น้ำรั่วซึมจากใต้ท้องรถ ยางปัดน้ำฝน ทดลองปัดดู ไฟส่องสว่าง ตรวจดูไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลีย้วหรืออื่นๆรวมทั้งระดับไฟหน้าด้วยว่าเป็นปกติทั้งหมด
ตรวจภายในรถ ยางอะไหล่และแม่แรง ตรวจเช็คลมยาง และให้แน่ใจว่าแม่แรงและด้ามขันใช้งานได้ตามปกติ เข็มขัดนิรภัย ตรวจเช็คว่าหัวเข็มขัดสามารถลอ็คได้เรียบร้อย แตร ให้แน่ใจว่าดังดี แผงควบคุมและอุปกรณ์ ตรวจดูให้แน่ใจว่าทำงานเป็นปกติ และที่ปัดน้ำฝน ปัดได้เรียบร้อยสม่ำเสมอ เบรก เช็คระยะฟรีขาเบรคอยู่ในค่ากำหนดหรือไม่ ฟิวส์สำรองที่เตรียมไว้ต้องมีขนาดค่ากระแสใช้ได้ตามที่กำหนดที่แผงฟิวส์ ตรวจใต้ฝากระโปรงหน้าระดับน้ำหล่อเย็น ควรจะมีอยู่ถึงระดับสูงสุดในถังพักสำรอง หม้อน้ำและท่อยาง ควรดูว่าด้านหน้าหม้อน้ำหมดจดไม่มีเศษวัสดุ หรือใบไม้ติดอยู่ ดูท่อยางว่ามีรอยแยกเปื่อย มีรอยฉีกขาดหรือหลวม สายพานขับต่างๆ ต้องไม่มีรอยแตก เลอะน้ำมันหล่อลื่น และความตึงสายพานอยู่ในค่ากำหนด แบตเตอรี่และสายไฟ ตรวจดูและเติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับที่กำหนดดูเปลือกแบตเตอรี่ว่ามีร่องรอยเสียหายหรือไม่ ดูขั้วต่อและสายไฟว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ ระดับน้ำมันเบรคและคลัชท์ ตรวจดูว่าระดับน้ำมันเบรคและคลัทช์อยู่ในระดับที่ถูกต้อง ท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจดูว่าท่อน้ำมันมีการรั่ว หลุดหรือไม่